เกี่ยวกับหน่วยศัลยกรรมระบบปัสสาวะ ในทศวรรษนี้ทิศทางที่จะไปในอนาคต

"ความก้าวหน้าของหน่วยศัลยกรรมระบบปัสสาวะและอนาคตที่พวกเราวาดไว้"



ผมยังคงจำภาพเดิมของหน่วยศัลยกรรมระบบปัสสาวะในช่วงเวลาที่ผมเป็นนักเรียนแพทย์ทหารชั้นปีที่๖ ได้อย่างไม่เคยลืม

กับภาพของอาจารย์ที่นั่งอยู่ที่ห้องพักที่ชั้นสองของตึกอายุรกรรมศัลยกรรมทุกเช้า คอยให้คำแนะนำและปรึกษากับพี่แพทย์ประจำบ้าน มีโทรทัศน์เครื่องใหญ่ประมาณ๒๕นิ้ว ที่ต่อกับคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการวินโดว์ มีพี่ๆนั่งอ่านหนังสือกันตอนเช้า ไม่ว่าจะเป็น Five-minute, Smith หรือในวันพุธซึ่งเป็น Campbell อาจารย์นพพร อาจารย์สมเกียรติ และอาจารย์พูนเกียรติ ที่นั่งคอยแนะนำและคอยสอน อาจารย์ธนู อาจารย์สถิตย์ และอาจารย์บัณฑิต ที่มาออกทำงานที่ห้องตรวจโรคศัลยกรรมระบบปัสสาวะแต่เช้าตรู่ที่ชั้นสองของตึกตรวจโรคผู้ป่วยนอกเก่า ความประทับใจในฐานะของExtern Uro ทำให้ผมมีความตั้งมั่นว่าถ้ามีโอกาส จะต้องเข้ามาเป็นแพทย์ประจำบ้านสาขานี้ให้ได้ เวลาผ่านไปหลังจากไปใช้ทุนมาสองปี ผมได้รับโอกาสนั้น อาจารย์ธนู ผู้ซึ่งเป็นผู้สัมภาษณ์ผมตอนผมสอบเข้าวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้าได้ เป็นผู้สอบสัมภาษณ์ผมอีกครั้ง อาจารย์ยังจำผมได้ดี อาจารย์จำคำตอบเมื่อแปดปีก่อนที่วพม.ได้ ผมประทับใจมาก อาจารย์เป็นสุภาพบุรุษที่ยิ่งใหญ่ สุภาพ เปี่ยมไปด้วยความเมตตา อ่อนน้อม เป็นที่รักของทุกคน ผมได้รับโอกาสที่จะได้รับการฝึกศึกษาต่อที่นี่ ผมดีใจมาก เมื่อได้เข้ามา อาจารย์ทุกท่านช่างเมตตา ผมสามารถที่จะปรึกษาทุกเคสของผู้ป่วย ทุกปัญหาการทำงาน ทุกเรื่องในวอร์ด ได้อย่างไม่ต้องลังเล อาจารย์รับโทรศัพท์ผมตลอด๒๔ชั่วโมง อาจารย์สถิตย์คอยสอนและให้แง่คิดต่างๆ อาจารย์บัณฑิตผู้ที่มีความรู้และการผ่าตัดที่ยอดเยี่ยม อาจารย์นพพรที่ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะทั้งประเทศ(ผมกล้าพูดอย่างนั้น) ว่าท่านคือ Campbell เคลื่อนที่ ความรู้ของท่านไม่เคยเป็นรองใคร อาจารย์สมเกียรติผู้สุภาพและใจเย็นมีการผ่าตัดที่น่าดูและยอดเยี่ยม และ young staff ในขณะนั้นคือ อาจารย์พูนเกียรติ ผู้ดูแลหน่วยในทุกๆเรื่องและทางIT ผมผ่านเวลานั้นมาอย่างภูมิใจจนกระทั่งสอบบอร์ดเสร็จและได้อยู่ที่นี่ในฐานะอาจารย์ศัลยแพทย์

ยุคของความขาดแคลน

ผมต้องบอกว่าเราไม่ได้เป็นอย่างทุกวันนี้ตั้งแต่ต้น ขณะที่ผมเป็นแพทย์ประจำบ้านนั้น(ถ้าจะนึกเลยไปกว่านั้นตอนเป็นExtern) ทุกอย่างไม่ได้สวยหรูดูมีชาติมีตระกูลเช่นทุกวันนี้ ห้องตรวจโรคผู้ป่วยนอกของเราอยู่ที่ชั้นสองของอาคารผู้ป่วยนอกเก่า เลยสามแยกdetailมานิดนึง(เป็นที่นั่งของผู้แทนยาในตอนเช้า) ห้องตรวจของพวกเราทำด้วยไม้ มีห้องตรวจประมาณ ๔-๕ ห้อง มีห้องส่องกล้อง และห้องเอกซ์เรย์ คนไข้ยังไม่มาก กล้องที่ส่องไปในท่อปัสสาวะยังต้องส่องด้วยตา ผมยังจำได้พอส่องเสร็จนี่เปื้อนไปทั้งเสื้อทั้งรองเท้า เวลาอาจารย์จะสอนก็ต้องใช้เลนส์ช่วยสอนซึ่งต้องเอาหน้าแนบกับอาจารย์และโยกศีรษะไปกับท่าน(สวีทกันมาก) ห้องผ่าตัดเรามีแค่สองห้องคือห้องสองและห้องเจ็ดที่ตึกพัชรกิติยาภาชั้นสองและสาม มีป้าต้อยเป็นพยาบาลดมยา และพี่น้อยกับป้าเต่าเป็นพยาบาลส่งเครื่องมือ แต่ถึงทุกอย่างจะน้อยแต่เราก็ทำงานอย่างมีความสุข อย่างที่อาจารย์ธนูได้กล่าวไว้เสมอว่า เราคือครอบครัวยูโร อาจารย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ทำงานและรักกับอย่างครอบครัว

ยุคของการเปลี่ยนผ่าน

อนิจจัง เป็นสิ่งที่เที่ยงแท้ ในที่สุดอาคารตรวจโรคเก่าก็ต้องจากเราไป พร้อมกับการเกิดขึ้นใหม่ของอาคารเฉลิมพระเกียรติ๖รอบพระชนมพรรษา(เริ่มสร้างตั้งแต่ผมเป็นนพท. ใช้ตอนผมเป็นแพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่สาม) หน่วยของเราได้รับโอกาสให้ย้ายมาสู่ชั้นเจ็ด ปีกวังพญาไท อาจารย์สถิตย์ผู้มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลได้กรุณาวางแผนและให้พื้นที่กับหน่วยเรา ได้มีทั้งห้องตรวจเก้าห้อง ห้องประชุมอาจารย์ธนู ชูวิเชียร เรามีห้องส่องกล้องตรวจที่ทันสมัย มีจอมอนิเตอร์(ไม่ต้องแนบแก้มและโยกศีรษะไปกับอาจารย์แล้ว) มีห้องยิงนิ่ว มีห้องถ่ายภาพทางรังสีและหัตถาการ มีเครื่องอัลตราซาวน์ที่ทันสมัย ซึ่งตรวจสถาบันทีไร ยูโรที่อื่นก็มักอิจฉาเราเนื่องจากเรามีบริการที่ครบวงจรในที่เดียว และการที่เป็นอย่างนี้ยังลดอัตราของเคสที่ต้องเข้าไปทำหัตถการในห้องผ่าตัดอีกด้วย(ซึ่งยูโรที่อื่นต้องใช้ห้องผ่าตัดทำหัตถการจำพวกนี้) เราได้รับการชื่นชมการจากการตรวจสถาบันครั้งที่ผ่านมาจนทางสมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ ในพระบรมราชูปถัมป์เล็งเห็นถึงศักยภาพของเราและอนุมัติให้เรารับอบรมแพทย์ประจำบ้านเพิ่มจากเดิมโดยไม่ต้องลังเล เรื่องวิชาการเราไม่เคยเป็นรองใคร เราภูมิใจในจุดนี้มานาน อาจารย์นพพรเป็นตัวอย่างของอาจารย์แพทย์ที่ยอดเยี่ยม(คงหาคำไหนมาอธิบายดีกว่าคำนี้ไม่มีอีกแล้ว)ความเมตตา ความรู้ที่เปี่ยมล้นได้ถ่ายทอด เรามีกิจกรรมวิชาการที่เข้มข้น อาจารย์พูนเกียรติผู้ที่นำข้อมูลใหม่ และแหล่งวิชาการใหม่มาฝากพวกเราทั้งปี(เรามีหนังสืออีเลคโทรนิคทุกเล่มที่ยูโรควรอ่าน) ผลการสอบบอร์ดของเราในช่วงแปดปีหลังนี้เรามีแพทย์ประจำบ้านที่สอบได้ที่หนึ่งบอร์ดสี่คนจากการสอบแปดปี(เรียกได้ว่าปีเว้นปี ยิ่งปีหลังนี่ติดกันสองปี) แพทย์ประจำบ้านของสถาบันฝึกอบรมอื่นก็เลือกมาelectiveกันเป็นอย่างมากเรียกว่าทุกเดือน และผลสะท้อนที่กลับมาก็คือชื่อเสียงที่ขจรกระจายของหน่วยและโรงพยาบาลนั้นเอง ผลนั้นยังส่งมาถึงยอดของผู้ป่วยนอกและใน เราเป็นหน่วยที่มีผู้ป่วยนอกมารับการตรวจมากที่สุดและทำรายได้ให้กับโรงพยาบาลมากที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน

ยุคของความคาดหวัง(ที่เราหวัง)

จะว่าพวกเราหวังก็ไม่ใช่ เราไม่เคยคิดจะรอคอยความหวังอย่างลมๆแล้ง ท่านอาจารย์พูนเกียรติได้วางรากฐานของยูโรพระมงกุฎรุ่นใหม่และอนาตตไว้อย่างดี ตั้งแต่การเลือกคนที่จะเข้ามาเป็นอาจารย์แพทย์ต่อ มีการแบ่งระบบและภาระของงาน เราไม่ได้ทำงานอย่างเดียวกันทุกคน แต่ละคนมีงานและหน้าที่ที่แยกกันอย่างชัดเจน มีคนทำมะเร็ง มีคนทำendourology มีคนดูแลยูโรที่เกี่ยวกับเด็ก มีคลินิก